ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับคลินิกหมอเด็ก

อาจจะกล่าวได้ว่าการพาลูกน้อยไปคลินิกหมอเด็กเป็นเรื่องพื้นฐานที่ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่คนใดก็ทำกันแทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ดี ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคลินิกหมอเด็กเองก็ยังคงมีค่อนข้างมาก จะดีแค่ไหนหากเรานั้นทำความเข้าใจกับคลินิกหมอเด็กให้ถูกต้อง มาศึกษาหาความรู้ไปพร้อมๆ กัน 

1.กุมารแพทย์จะจบแพทย์ด้านใดมาก็ได้ 

หลายๆ คนเข้าใจผิดคิดว่าแม้เป็นกุมารแพทย์ก็สามารถจบด้านใดมาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจบสายเฉพาะทาง แต่ในความเป็นจริงแล้วการเรียนเฉพาะด้านของกุมารแพทย์เองก็ยังแบ่งออกเป็นหลายต่อหลายด้านเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น กุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด กุมารเวชศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหารและโรคตับ กุมารเวชศาสตร์ประสาทวิทยากุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน กุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อ และนอกจากนี้ยังมีกุมารแพทย์ด้านอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่สามารถกล่าวโดยรวมได้เลยว่าแพทย์เฉพาะทางเด็ก เหมือนแพทย์เฉพาะทางด้านอื่นๆ เนื่องจากแพทยเฉพาะทางเด็กต้องอาศัยจิตใจที่ละเอียดอ่อน สามารถอดทนฟังเสียงเด็กร้องไห้งอแงเป็นเวลานานได้ เนื่องจากในช่วงเวลาที่เด็กร้องไห้งอแงนั้น แพทย์จะไม่สามารถทำการตรวจรักษาโรคได้นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการเอาใจใส่ในตัวโรค และมีความละเอียดลออในการวินิจฉัยอีกด้วย 

2.กุมารแพทย์มีหน้าที่แค่รักษาโรคเด็กเท่านั้น 

คุณพ่อคุณแม่หลายคนมักจะเข้าใจไปว่ากุมารแพทย์จะมีหน้าที่คือการรักษาโรคที่เกิดขึ้นในเด็กแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วยังจะต้องมีการตรวจรักษา การวินิจฉัยว่าลูกน้อยของคุณป่วยด้วยโรคอะไร จากนั้นจึงเป็นการสั่งยา การติดตามอาการและการติดตามพัฒนาการของเด็ก และฉีดวัคซีนไปตามวัยต่างๆ อีกด้วย อย่างไรก็ดีกุมารแพทย์เองก็ยังมีหน้าที่สำหรับการดูแลเด็กแบบรวมศูนย์ กล่าวคือ มีทั้งการตรวจโรคเด็ก และประเมินสุขภาพของเด็กๆ ทั้งกรณีที่เด็กมีน้ำหนักสมส่วนหรือไม่ อย่างไร มีพัฒนาการที่สมวัยหรือไม่ และภาวะโภชนาการอยู่ในระดับใดกันแน่  หรือได้รับวัคซีนครบหรือไม่ อย่างไร ที่สำคัญที่สุดยังจะต้องให้คำแนะนำต่อคุณแม่และคุณพ่อ ถึงการเลี้ยงเด็กในแต่ละวัยอีกด้วย  

อาจจะกล่าวได้ว่าแพทย์เด็กไม่ได้แค่ตรวจเด็กอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะเป็นการให้คำแนะนำสำหรับพ่อและแม่ รวมถึงการตรวจสอบว่าพัฒนาการของเด็กเหมาะสมมากหรือน้อยแค่ไหน หรือหากว่าไม่ใช่กุมารแพทย์ทั่วไป หรือแพทย์เฉพาะทางอาจจะต้องรักษาตามที่ตนเองได้เรียนมาด้วยจึงจะดีที่สุด เพื่อให้เกิดความมั่นใจในสุขภาพสำหรับลูกน้อยของตนเอง